รวมมติการออกอากาศรายตอบโจทย์…ทางไทยพีบีเอส

รวมมติการออกอากาศรายตอบโจทย์

การประชุม กสท. ครั้งที่ 11/2556 วาระ 5.2 ขอหารือกรณีการยุติออกอากาศรายการตอบโจทย์ประเทศไทย ของสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (เสนอโดยส่วนงาน กสทช.สุภิญญาฯ) มีข้อเสนอเพื่อให้ กสท. สามารถดำเนินการกำกับดูแลการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ให้เป็นไปตามนโยบายโดยคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพในการสื่อสารของประชาชน ตลอดจนป้องกันมิให้ผู้ประกอบกิจการกระทำการใดๆ ที่เป็นการขัดขวางหรือแทรกแซงการเสนอข่าวหรือความคิดเห็นหรือปิดกั้น การได้รับข้อมูลข่าวสารที่หลากหลายของประชาชน จึงเห็นสมควรให้มีการพิจารณา ดังนี้

1. ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงการถอดรายการ ตอบโจทย์ ประเทศไทย เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 15 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมา

2. เร่งรัดให้สำนักงานฯ ดำเนินการจัดทำเกณฑ์ กติกา ในการบังคับใช้ ตามมาตรา 37 แห่งพรบ. ประกอบกิจการฯ เพื่อสร้างความชัดเจนในการกำกับดูแลและนำไปสู่การสร้างความเข้าใจต่อสาธารณะ ตลอดจนลดการสร้างบรรยากาศแห่งความกลัวและเป็นแนวทางป้องกันกรณีที่อาจเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต

 

การประชุม กสท. ครั้งที่ 13/2556 วาระ 4.3 เรื่องแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณารายการตอบโจทย์ประเทศไทย “สถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ” ตอน 1 – 5 เสนอโดย กลุ่มงานพัฒนาบุคลากรด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(บส.) เลขานุการคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ โดยมีองค์ประกอบ ดังนี้

๑)      นายจาตุรงค์ ปัญญาดิลก                     ประธานคณะทำงาน

๒)      นายณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา             คณะทำงาน

๓)      นายอนุสรณ์ ศรีแก้ว                          คณะทำงาน

๔)      รศ.เจษฎ์ โทณวณิก                           คณะทำงาน

๕)      นายวีระ อุไรรัตน์                                       คณะทำงาน

๖)      นางรัตนากร ทองสำราญ                     เลขานุการ

๗)      นางสาวกัญญา แสนคลัง                     ผู้ช่วยเลขานุการ

๘)      นางสาวกฤติพร ศรียะพันธ์                   ผู้ช่วยเลขานุการ

อำนาจหน้าที่

๑.      พิจารณาความเหมาะสมของเนื้อหารายการตอบโจทย์ฯ ตอน “สถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ” ตอนที่ 1 – 5 ที่ออกอากาศไปแล้วในบริบทของสังคมไทยทุกมิติ

๒.      พิจารณาเนื้อหารายการว่าเป็นเนื้อหาที่ขัดต่อกฎหมายฉบับใดบ้าง

๓.      ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่อนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการมอบหมาย

 

 

 

การประชุม กสท. ครั้งที่ 18/2556 วาระ 4.3 กลุ่มงานพัฒนาบุคลากรด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(บส.) เลขานุการคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ เสนอวาระเรื่อง คณะทำงานพิจารณารายการตอบโจทย์ประเทศไทย ดังนี้

๑.      พิจารณาแต่งตั้งหัวหน้าคณะทำงานพิจารณารายการตอบโจทย์ประเทศไทย (เนื่องจากนายจตุรงค์ ปัญญาดิลก หัวหน้าคณะทำงาน ได้มีหนังสือถึงประธาน กสท. วันที่ 8 พ.ค. 56 เรื่อง ขอลาออกจากการเป็นหัวหน้าคณะทำงาน เนื่องจากมีความจำเป็นในตำแหน่งหน้าที่ราชการที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ไม่อาจร่วมทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะทำงานดังกล่าวได้)

๒.      พิจารณาแก้ไขอำนาจหน้าที่ของคณะทำงานพิจารณารายการตอบโจทย์ประเทศไทย (คำสั่ง กสทช. 51/2556 ลงวันที่ 18 เม.ย. 56 แต่งตั้งคณะทำงานฯ ได้กำหนดอำนาจหน้าที่ “พิจารณาความเหมาะสมของเนื้อหารายการตอบโจทย์ฯ ตอน “สถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ” ตอนที่ 1 – 5 ที่ออกอากาศไปแล้วในบริบทของสังคมไทยทุกมิติ

๓.      พิจารณาแก้ไขนามสกุลผู้ทำงานในคณะทำงานพิจารณารายการตอบโจทย์ประเทศไทย (เนื่องจากพิมพ์นามสกุล นายเจษฎ์ โทณะวณิก คณะทำงานผิด)

 

มติที่ประชุม

1. รับทราบการลาออกของนายจตุรงค์  ปัญญาดิลก หัวหน้าคณะทำงาน และการปรับเลื่อนให้นายณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา เป็น หัวหน้าคณะทำงาน แทน

2. ให้ปรับแก้ชื่อสกุลของผู้ทำงานราย 1.4 ในคำสั่งแต่งตั้งฯ จาก “โทณวณิก” เป็น “โทณะวณิก”

3. ให้ปรับแก้ไขอำนาจหน้าที่ของคณะทำงาน ข้อ 2.1 เป็น ดังนี้

“2.1 พิจารณาความเหมาะสมของเนื้อหารายการตอบโจทย์ประเทศไทย ตอน สถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ ตอนที่ 1 ถึง 5 ในบริบทของสังคมไทย”

 

การประชุม กสท. ครั้งที่ 32/2557 วาระ 4.18 ผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ เรื่องร้องเรียน รายการตอบโจทย์ประเทศไทย “สถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ” เสนอโดยสำนักกำกับผังและเนื้อหารายการและพัฒนาผู้ประกาศในกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์(ผส.) จาก 2 แหล่ง ได้แก่

1. สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยชมรมคนรักในหลวงจังหวัดสระบุรีกับพวกจำนวน 80 คน ยื่นหนังสือคัดการการแสดงความคิดเห็นในการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของผู้ร่วมรายการตอบโจทย์ประเทศไทย “สถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ” โดยเห็นว่าเป็นการทำลายความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนที่มีต่อสถาบันฯ

2. สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กรณีข้อหารือของสมาชิกวุฒิสภาในคราวประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 18 และ ครั้งที่ 19 (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) ขอให้ตรวจสอบรายการตอบโจทย์ประเทศไทย “สถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ”

จากการพิจารณาประเด็นดังกล่าว คณะอนุกรรมการฯจึงมีความเห็นดังนี้

๑.      คณะอนุกรรมการเสียงส่วนใหญ่ 8 เสียง(ใน11เสียง) เห็นว่าการกระทำของสถานีไทยพีบีเอส ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. การประกอบกิจการฯ พ.ศ. 2551 มาตรา 37

๒.      กรณีสำหรับบทลงโทษอนุกรรมการฯ เห็นว่าผิด จนวน 8 เสียง มีความเห็น 3 กรณี คือ

๑)      เห็นว่าควรปรับ 5 แสนบาท จำนวน 2 เสียง ได้แก่ นายไพศาล กุวลัยรัตน์ และ นายณัฐเมศร์ เรืองพิชัยพร

๒)      เห็นว่าควรปรับ 1 แสนบาท จำนวน 3 เสียง ได้แก่ นายวุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ นายมานพ เหมพลชม และนายอารี สวัสดี

๓)      เห็นว่าควรตักเตือน จำนวน 1 เสียง ได้แก่ ศ.ดร.สุรศักดิ์ ลิขสิทธิ์วัฒนกุล

 

ข้อเสนอ

๑.      เห็นชอบผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ ต่อการนำเสนอ รายการตอบโจทย์ประเทศไทย “สถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ” เป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. การประกอบกิจการฯ พ.ศ. 2551 มาตรา 37 เนื่องจากมีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน

๒.      เห็นควรกำหนดโทษปรับทางปกครอง องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยเป็นเงินจำนวน 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน)

 

มติที่ประชุม

ที่ประชุมได้พิจารณาเนื้อหารายการและบทวิเคราะห์ตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอแล้ว โดยที่ประชุมเสียงข้างมาก (กสทช. พลโท ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ และ ผศ.ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์) เห็นว่าเนื้อหารายการตอบโจทย์ฯ เป็นเนื้อหารายการที่ต้องห้ามออกอากาศตาม พ.ร.บ. การประกอบกิจการฯ พ.ศ. 2551 มาตรา 37 และองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยไม่ได้ใช้ความระมัดระวังในการตรวจสอบหรือระงับการออกอากาศดังกล่าว เห็นควรกำหนดโทษปรับทางปกครอง องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน)

 

หมายเหตุ

  1. ประธาน กสท.(พันเอก ดร.นที ศุกลรัตน์) งดออกเสียง โดยมีความเห็นตามบันทึกแนบ
  2. กสทช.สุภิญญาฯ ขอสงวนความเห็นตามเอกสารที่แนบ
  • พันตำรวจเอก ทวีศักดิ์ งามสง่า ติดภารกิจไม่ได้เข้าร่วมประชุมพิจารณา

 

การประชุม กสท. ครั้งที่ 5/2558 วาระ 4.14 พิจารณาการกำหนดแนวทางการดำเนิคดีปกครองหมายเลขดำที่ 2227/2557 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือไทยพีบีเอส ยื่นฟ้อง กสท.และสำนักงาน กสทช. ต่อศาลปกครองกลาง เรื่อง การลงมติการประชุม กสท.ครั้งที่ 32/2557 เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 57 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้

  1. เนื่องจากมี กสท.เข้าร่วมประชุม 4 ท่าน และลงมติเห็นว่า เนื้อหารายการฯ ขัดต่อมาตรา 37 พ.ร.บ.การประกอบกิจการฯ พ.ศ. 2551 เพียง 2 ท่าน งดออกเสียง 1 ท่าน และไม่เห็นด้วย 1 ท่าน โดยประธานในที่ประชุมได้ได้ลงคะแนนเสียงชี้ขาดเพิ่ม มติดังกล่าวจึงไม่ได้เป็นเสียงข้างมากของการประชุม มติดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยมาตรา 82 แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
  2. การลงมติไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจาก กสทช. พลโท ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ ซึ่งเป็นประธานอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหาเป็นผู้ทำหน้าที่สอบสวนข้อเท็จจริงต่อกรณีดังกล่าว ซึ่งได้ลงความเห็นในชั้นการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯว่า ไทยพีบีเอสกระทำการอันเป็นการขัดต่อมาตรา 37 มาโดยตลอด ซึ่งเมื่อเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของ กสท. ก็ยังมาเป็นกรรมการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ย่อมที่จะมีความเห็นเช่นเดียวกับในชั้นการพิจารณาของคณะอนุกรรมการ ถือเป็นกรณีที่มีเหตุร้ายแรงที่จะส่งผลกระทบให้การพิจารณาไม่เป็นกลาง อันเป็นการต้องห้ามตามมาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ. วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
  3. คำสั่งทางปกครองที่กำหนดให้ไทยพีบีเอสจะต้องชำระเงิน 50,000 บาท เป็นคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากไทยพีบีเอสเห็นว่า การพิจารณาเนื้อหารายการดังกล่าวกระทบต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือไม่นั้น เป็นถ้อยคำที่จะต้องพิจารณาในบริบททางสังคมที่เกิดการกระทำดังกล่าว ซึ่งในการแสวงหาข้อม็จจริงโดยการรับฟังความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น กระทำไปในลักษณะของการรับฟังความเฉพาะหน่วยงานด้านความมั่นคงเท่านั้น โดยไม่ได้รับฟังความเห็นจากหน่วยงานด้านสื่อสารมวลชนแต่อย่างใด

 

คำขอท้ายฟ้อง

1)      ขอให้เพิกถอนคำสั่งกำหนดโทษปรับทางปกครองที่กำหนดให้ไทยพีบีเอสจะต้องชำระเงิน 50,000 บาท

2)      ขอให้สำนักงาน กสทช. คืนเงินค่าปรับทางปกครอง 50,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 นับถัดจากวันฟ้อง

ข้อเสนอแนวทางการดำเนินคดีต่อที่ประชุม ดังนี้

1)แต่งตั้งผู้รับมอบอำนาจในการดำเนินคดี

2)แนวทางการจัดทำให้การแก้คำฟ้องคดี สำนักงานเห็นควรชี้แจงประเด็น ดังต่อไปนี้

  1. การลงมติที่ประชุม กสทช. ครั้งที่ 32/2557 วันที่ 4 ส.ค. 57 เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว
  2. การพิจารณาว่าเนื้อหารายการตอบโจทย์ฯ ขัดต่อมาตรา 37 หรือไม่นั้น ได้กระทำด้วยความละเอียดรอบคอบแล้ว

โดยขณะนี้ สำนักงาน กสทช. ได้ดำเนินการรวบรวมข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อการจัดทำคำให้การต่อไป

 

มติที่ประชุมมอบหมายให้ กสทช. พลโท ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ และ ผศ.ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ เป็นผู้รับมอบอำนาจในการดำเนินคดี และเห็นชอบแนวทางจัดทำคำให้การ ตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอ

หมายเหตุ   กสทช. สุภิญญา กลางณรงค์  ไม่พิจารณาวาระนี้…

Download (-ok.pdf,PDF, Unknown)