จับตาวาระกสท. จันทร์ 2 มิ.ย. นี้

จับตาวาระกสท. จันทร์ 2 มิ.ย. นี้

นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ 2 มิ.ย. 57 ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ครั้งที่ 22/57 มีวาระการประชุมน่าจับตา ได้แก่ วาระแผนการปรับเปลี่ยนรูปแบบการประกอบกิจการโทรทัศน์สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 เพื่อนำไปสู่การประกอบกิจการโทรทัศน์ บริการสาธารณะ ประเภทที่สอง(ช่องเพื่อความมั่นคงของรัฐ หรือ ความปลอดภัยสาธารณะ) ซึ่ง นางสาวสุภิญญา กล่าวว่า “ส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่ กสทช. จะให้ใบอนุญาตช่อง 5  เป็นทีวีสาธารณะโดยอัตโนมัติ โดยที่ยังไม่เห็นการปรับตัวช่องเป็นสาธารณะจากเดิมที่ทำเหมือนเป็นช่องธุรกิจ แต่อย่างไรก็ตามบทบาททีวีสาธารณะประเภทสองเพื่อความมั่นคงและความปลอดภัยสาธารณะในยุค คสช. เป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก เพราะดูเหมือนว่าตอนนี้ ช่อง 5 จะมีบทบาทมากกว่าทุกช่อง ดังนั้นการทำหน้าที่เป็นทีวีสาธารณะเพื่อความมั่นคงจริงๆควรทำหน้าที่หลักในการให้ข้อมูลข่าวสารรอบด้าน จึงเป็นคุณลักษณะที่แท้จริงของการเป็นทีวีสาธารณะ ซึ่งอยากให้สังคมช่วยจับตาทิศทางทีวีสาธารณะต่อจากนี้ไป ซึ่ง กสทช.ควรจะต้องทำหน้าที่เป็นอิสระจากผู้มีอำนาจในการทำหน้าที่กำกับดูแลโดยยึดหลักการที่ควรจะเป็นด้วย ”

ประกอบด้วย…นางสาวสุภิญญา กรรมการ กสทช.เคยสงวนความเห็น ในการประชุมกสทช. 7/56 วันพุธที่ 17 ก.ค. 57 วาระ 5.5 เรื่องพิจารณาความจำเป็นการใช้คลื่นความถี่และกำหนดระยะเวลาการถือครองคลื่นความถี่ของกิจการโทรทัศน์ ดังนี้

Download (-ขอเปิดเผยความเห็นและมติในการประชุม-กสทช.-ครั้งที่-๗-๒๕๕๖.pdf,PDF, Unknown)

นอกจากนี้ มีวาระ การพิจารณาการแจ้งยืนยันช่องรายการและโครงข่าย แบบบอกรับสมาชิกเพิ่มเติม ตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 27/2557 ที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตถ่ายทอดออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ที่ได้รับอนุญาต ผ่านทางระบบการใช้คลื่นความถี่ภาคพื้นดิน ระบบผ่านดาวเทียม และเคเบิล ในกรณีที่ผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกได้รับอนุญาตออกอากาศได้ตามปกติผ่านทางโครงข่ายระบบผ่านดาวเทียม และเคเบิลแบบบอกรับสมาชิกเท่านั้น “…ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ ตนเตรียมเสนอต่อ กสท. เพื่อหารือถึงแนวทาง หรือทางออกให้กับผู้ประกอบกิจการทีวีดาวเทียม และวิทยุที่ถูกปิดนานโดยไม่รู้อนาคต ว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ควรมีแนวทางและโรดแมปที่ชัดเจนโดยที่ให้พวกเขามีส่วนร่วมในการนำเสนอ พร้อมทั้งยืนยันอีกครั้งว่า กสทช.จะต้องเป็นตัวกลางเจรจาเพื่อให้เกิดการวิน – วิน ต่อทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องจนเสียหายเกินไป….” สุภิญญา กล่าว

นอกจากนี้ มีวาระคดีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ที่ศาลวันสิ้นสุดการแสวงหาข้อเท็จจริงและการนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก และวาระผู้รับใบอนุญาตทีวีในระบบดิจิตอล ประเภทธุรกิจระดับชาติ ขอเปลี่ยนแปลงชื่อช่องรายการ จำนวน 3 ช่อง  และ วาระอื่นๆนาสนใจจับตาได้วันจันทร์ 2 มิ.ย.นี้….