6 ส.ค. มอบให้ สำนักงานจัดเวทีสาธารณะ ระดมการแก้ปัญหาเรื่องใบปลิว/ทำการตลาดกล่องที่สร้างปัญหาต่อ

1 ส.ค. 57

Sum up: meeting with all free TV channels updating action plan during natural disaster. Also meeting with companies who got complaints on marketing tactics for selling set-top boxes, 2 companies already blacklisted for violating Rules & consumer rights. More to investigate.

สรุปงานก่อนสิ้นสัปดาห์ เมื่อวานนี้(31 ก.ค.) ประชุมร่วมกับ 6 ฟรีทีวีแอนาล็อก และฟรีทีวีดิจิตอล 24 ช่อง พร้อมกับ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ และ กรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อวางกลไกการ รับ/ ส่ง ข้อมูลข่าวสารการพยากรณ์อากาศและการเตือนภัย เพราะแบ่งระดับความหนักเบา รวมทั้งแนวปฏิบัติและจรรยาบรรณในการนำเสนอข่าวสาร 

สรุปคือทางศูนย์เตือนภัยจะจัดทำระบบเพื่อส่งข้อมูลทางอิเลกโทรนิกส์ไปยังทุกช่อง รวม 24 ช่องใหม่ในระบบดิจิตอลด้วย โดยที่ทุกช่องต้องมี 1 บุคคลที่เป็นจุดติดต่อสื่อสารข้อมูลระหว่าง ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ และ กสทช. เมื่อเกิดเหตุ จากนั้น กสทช. จะจัดอบรวมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารด้านภัยพิบัติให้เป็นไปตามกรอบความถูกต้องและจรรยาบรรณ รวมกับหน่วยงานราชการอื่นๆต่อไป 

ตามประกาศ กสทช. ทุกสถานีต้องส่งแผนรับมือในการสื่อสารเรื่องการเตือนภัยพิบัติ ยังมีบางช่องยังไม่ส่ง ได้ทวงไปแล้ว ส่วนช่องที่ส่งแล้ว ก็ต้องฝึกซ้อมเตรียมกัน เมื่อเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น ทุกอย่างจะได้ flow ไปตามระบบต่อไป
…..

ส่วนเช้าวันที่ 1 ส.ค. สำนักงาน เชิญบริษัท So Good Global มาชี้แจงข้อร้องเรียนปัญหาตามรอย บ. วินเนอร์ดิจิตอล และ การศึกษาก้าวไกล ที่โดนแบล็กลิสต์ไปแล้ว และ สำนักงานกสทช.กำลังพิจารณาดำเนินคดีตามกฏหมาย 

บริษัท So Good Global ยอมรับทำใบปลิวแจก อ้างหวังช่วยทำความเข้าใจชาวบ้าน ปฏิเสธไม่เคยเก็บสำเนาบัตรประชาชน แต่ยอมรับอ้างข้อมูล กสทช. มั่ว หลังจากวันนี้ จึงให้บริษัท So Good หยุดพฤติกรรม ทำหนังสือชี้แจงและเสนอแผนเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้น ก่อนถูกพิจารณาขึ้นบัญชีดำอีกราย 

ก่อนหน้านี้ บอร์ด กสทช. มีมติให้ดำเนินดำเนินการตามกฎหมายกับ บ. Winner Digital และ บ. การศึกษาก้าวไกลรวมทั้งให้ขึ้นบัญชีดำไปแล้ว อย่างไรก็ตามบริษัทแบบ Winner Digital การศึกษาก้าวไกล หรือ So Good ล้วนเป็นบริษัทที่ทำการตลาด ตอนนี้ กสทช.ต้องสาวไปถึงคน *ผลิต/ขายกล่อง*ด้วย จึงได้ให้ สำนักงาน เชิญตัวแทนบริษัท Family ที่อ้างว่าไม่เกี่ยวข้องกับการทำการตลาดของ บ. Winner Digital และ การศึกษาก้าวไกล แต่ขายกล่องให้เขา

เบื้องต้นขอความร่วมมือกับบริษัท Family ให้ทบทวนดีลธุรกิจกับริษัท Winner Digital และ การศึกษาก้าวไกล ถ้ายังไม่หยุด จะกระทบถึง บ.Family ด้วย วันนี้ทาง บ. Family รับปากให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหาในฐานะที่ผลิตและขายกล่องให้ Winner Digital และ บ.การศึกษาก้าวไกล คือเขาต้องร่วมรับผิดชอบอีกทาง 

ต่อไปถ้าพบว่าบริษัทใดไปทำการตลาดในลักษณะที่ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด โรงงานผลิต และคนขายกล่องนั้น จะต้องถูกเชิญมาชี้แจงด้วย ยังได้รับเรื่องร้องเรียนเพิ่มว่ามีการตั้งบริษัทมาใหม่ เพื่อทำการตลาดและทำใบปลิวเก็บบัตรประชาชน ให้สำนักงานตรวจสอบก่อนเพื่อดูว่ากล่องของยี่ห้ออะไร บริษัทที่ทำการตลาดจะเป็นชื่ออะไรก็ตามแต่ 

ตอนนี้ให้ สำนักงานจับตา บริษัทต้นทางที่เป็นคน *ผลิต และ *ขาย กล่อง ซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาต กสทช.ด้วย สุดท้ายเขาอาจไม่สนใจที่จะถูกขึ้นบัญชีดำ เพราะแค่ทำการตลาดรวบรวมบัตรประชาชนมาอยู่ในมือ ดังนั้น กสทช. ต้องเข้าไปจับตาบริษัทผลิตกล่องต้นทางด้วย 

บริษัท So Good ซึ่งมีทุนจดทะเบียน1ล้านบาทมาทำใบปลิวแบบนี้ ทำให้สำนักงานอาจมีข้ออ้างให้เห็นจุดอ่อนของบริษัทเล็กๆ แต่บริษัทใหญ่อาจมีปัญหาเช่นกัน กรณี บ. Family ซึ่งมีทุนจดทะเบียนราว100 ล้านบาท วันนี้ก็ถูกร้องเรียนเพราะขายกล่องให้บริษัททำตลาดแบบ Winner Digital และ บ.การศึกษาก้าวไกล 

สรุปทั้งบริษัทที่มีทุนจดทะเบียน1 ล้านหรือ 100 ล้าน ก็ถูกร้องเรียนสืบเนื่องจากใบปลิวเจ้าปัญหา ทำให้ ประชาชนเข้าใจผิด ดังนั้น สำนักงานต้องแก้ให้ถูกจุด เรื่องทุนจดทะเบียน 250 ล้าน 

………………

วันนี้เจอท่านเลขาธิการ แจ้งข่าวให้โล่งใจว่า สำนักงานถอยแล้ว เรื่องการจะกำหนดเพดาน ทุนจดทะเบียน 250 ล้าน (คงเพราะโดนวิจารณ์หนัก) รอทำเอกสารใหม่เสนอบอร์ด ถ้าส่งมาอ่านก่อนประชุมจะดีมากค่ะ ฝากช่วยดูใหม่อย่างรอบคอบ เน้นการแข่งขันเสรีเป็นธรรม คุ้มครองผู้บริโภคและดำเนินการทางกฎหมายกับบริษัทที่ลวงประชาชน

เนื่องจากเรื่องนี้มีตัวละคร อาทิ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน อบต. อสม. บางแห่งที่ถูกร้องเรียนด้วย วันที่ 6 สิงหาคมนี้ จะเชิญทางกระทรวงมหาดไทยมาคุยด้วย หลังจากที่คุยกับ 2 บริษัทแล้ว ในวันที่ 6 ส.ค. มอบให้ สำนักงานจัดเวทีสาธารณะ ระดมการแก้ปัญหาเรื่องใบปลิว/ทำการตลาดกล่องที่สร้างปัญหาต่อ ให้ สำนักงาน เชิญตัวแทนกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานรัฐอื่นที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยให้ช่วยดูแลเจ้าหน้าที่ปกครองของรัฐในสังกัดตนด้วย 

กสทช. ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ แต่ทำไมมีคนอ้างเป็นผู้ใหญ่บ้าน กำนัน อสม. อบต. ออกไปแจกใบปลิวให้ข้อมูลเรื่องคูปองคลาดเคลื่อน รับนโยบายจากใคร มาถึงขั้นนี้ทางปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้อง คงต้องมาช่วย กสทช. แก้ปัญหาด้วย หรือจะมาร่วมมือกับ กสทช.ในการทำโครงการอย่างเป็นทางการไปเลยก็ได้ 

การมีเจ้าหน้าที่ของรัฐส่วนปกครองท้องถิ่น ออกแจกใบปลิว/เก็บบัตรประชาชนเอง ทำให้ประชาชนสับสนได้อยู่แล้ว ฝากทางผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยดูด้วย 

จริงๆ สตง. ได้เสนอให้ สำนักงาน กสทช. ทำงานร่วมกับ กรมการปกครอง น่าจะมีการคุยกันเป็นเรื่องราว แก้ปัญหาผู้ใหญ่บ้านแจกใบปลิวด้วยค่ะ 

………………….

ช่วงบ่าย ได้ฟังนักวิชาการด้านวิศวกรรมที่สุ่มแกะกล่องที่ได้รับอนุญาตจาก กสทช.มาตรวจ ผลคือผ่านมาตรฐาน แต่เกรดต่างกัน นอกจาก สำนักงานกสทช. จะสุ่มตรวจมาตรฐานกล่องT2 เองแล้ว วันนี้ยังได้ทราบว่ามีคนอื่นๆแอบช่วยสุ่มตรวจด้วยโดยเฉพาะวิศวกร ถือเป็นเรื่องดี

ทราบว่าความต่างอยู่ที่ความซับซ้อนของเมนบอร์ด กล่าวคือเมนบอร์ดที่มีความละเอียด ซับซ้อนสูงกว่า จะมีเกรดที่ดีกว่า การสุ่มตรวจของวิศวกรรมท่านนี้คือแกะเนื้อในของแต่ละกล่องมาดูวงจรการทำงาน ซึ่ง สำนักงาน กสทช. จะสุ่มตรวจความคงเส้นคงวาของมาตรฐานและคุณภาพกล่องที่ได้รับอนุญาตอย่างสม่ำเสมอต่อไปค่ะ

ปล. วันนี้ขอบคุณเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค  ที่ได้ร้องเรียนปัญหาการแจกใบปลิวมาที่ กสทช. และมาร่วมพูดคุยกับผู้ประกอบการเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาด้วย คงได้ขยายผลต่อไปในวันที่ 6 สิงหานี้ที่จะเชิญตัวแทนกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และ กระทรวงสาธารณสุขมาพูดคุยเพิ่มเติมค่ะ

กำหนดการเพิ่มเติม http://www.supinya.com/?p=4512