2 กสทช.ชงวาระบอร์ด ชี้ชัดการยื่นฟ้องหมิ่นฯนักวิชาการ-สื่อ กระทำในนามกลุ่มบุคคลหรือองค์กร

จับตาวาระกสทช. 18 กันยายน 2556

 2 กสทช. ชงวาระ ให้บอร์ด กสทช. ชี้ชัดการยื่นฟ้องคดีหมิ่นประมาทต่อนักวิชาการและสื่อมวลชน  กระทำในนามกลุ่มบุคคลหรือองค์กร

พรุ่งนี้ (วันพุธที่ 18  กันยายน  2556 ) ที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช.ครั้งที่ 9 /2556  นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา และ นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช.ด้านคุ้มครองด้านคุ้มครองผู้บริโภคและการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน เสนอวาระให้ กสทช.พิจารณากรณีการยื่นฟ้องคดีหมิ่นประมาทต่อนางเดือนเด่น นิคมบริรักษ์ และนางสาวณัฎฐา  โกมลวาทิน  จากกรณีการวิพากษ์วิจารณ์คัดค้านและไม่เห็นด้วยต่อร่างประกาศ กสทช.เรื่อง มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาต สัมปทาน หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พ.ศ…..และนำเสนอข่าวดังกล่าวในการรายการ “ที่นี่ Thai PBS” โดยเห็นว่าการฟ้องครั้งนี้เป็นการกระทำโดย กทค. 4 ท่านในฐานะตัวบุคคล แต่เนื่องจากสำนักงาน กสทช. เป็นโจทย์ร่วมฟ้องด้วย  ดังนั้นในคำแถลงต่างๆ มีการกล่าวถึงเหตุผลของการฟ้องว่าเพื่อปกป้องศักดิ์ศรี เกียรติภูมิ ของกสทช. หรือองค์กร  รวมถึงการนำเสนอข่าวในสื่อมวลชน พบว่ามีการนำเสนอในนามขององค์กรทั้งสิ้น ทั้งๆ ที่ ยังไม่เคยมีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวในระดับกรรมการ ไม่ว่าจะเป็น กสทช. หรือ กทค. เพื่อให้ความเห็นชอบแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งผิดกับแนวทางการดำเนินคดีอาญาเรื่องอื่นๆ  ที่สำนักงาน กสทช.เคยปฏิบัติมา  ดังนั้นจึงเสนอวาระเพื่อให้ที่ประชุม กสทช.พิจารณาว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปสถานะใด  และควรมีการนำเสนอต่อสาธารณะอย่างถูกต้องด้วย

ทั้งนี้ กสทช.ประวิทย์ฯ และกสทช.ฯ สุภิญญญา  มีความเห็นตรงกันว่า บทบาทของ กสทช.ในฐานะองค์กรกำกับดูแลสื่อวิทยุโทรทัศน์ควรเป็นแบบอย่างในการส่งเสริมสนับสนุนสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น   และสิทธิเสรีภาพในการสื่อสาร    หาก กสทช.เห็นว่าการใช้สิทธิเสรีภาพใดเกินกว่าขอบเขตที่เหมาะสม ก็มีสิทธิในการวิพากษ์วิจารณ์ ให้ข้อเสนอแนะ หรือใช้มาตรการอื่นๆ แทนการฟ้องร้องดำเนินคดีได้  เพราะการฟ้องร้องคดีทางอาญาเช่นนี้ ขัดต่อสายตาของโลกยุคใหม่ที่มองว่าเป็นการคุกคามต่อสิทธิเสรีภาพทางวิชาการและสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น  ซึ่งเป็นสิทธิที่ได้รับการรับรองทั้งในปฎิญญาสากลและในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  การกระทำเช่นนี้ทำให้ กสทช.เสื่อมเสียยิ่งกว่าการถูกวิพากษ์วิจารณ์จากการดำเนินการอื่นๆ

นอกจากนี้วาระอื่นที่น่าสนใจ อาทิ  การพิจารณาความเห็นชอบโครงการที่ขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนจากเงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง  กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม  เพื่อประโยชน์สาธารณะประจำปี 2556  (ประเภท1) จำนวนเงิน 152,725,299 บาท  ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดหน่วยงานใดที่ยื่นความประสงค์มาแล้ว  จะได้รับการจัดสรรจากกองทุนดังกล่าวหรือไม่  และได้รับการสนับสนุนมากน้อยเพียงใด  ชวนติดตามการประชุม กสทช.ในนัดนี้…