เชื่อในสิ่งที่ทำ ทำในสิ่งที่เชื่อ : สุภิญญา

Sum up 1-12-57

Another good news this week about my recent lawsuits on defamation & Computer-related Crime Act filed by Ch3, biggest incumbent TV corp, against only me as doing Commissioner duty, is withdrawn today (Dec 1, 2014) by the plaintiff itself.

I agreed before Court not to make a counter-lawsuit since it is wasting my time. Great news isn’t it, seems I am lucky in Court this year after 3 major cases are cleared!

My gratitude to All indeed esp my wonderful colleagues & excellent lawyers esp khun Nakhon Chomphuchat who has been my lawyer in all previous cases & my legal advisor at work now too.

So far we have won mostly tho such a tough fight. Still overwhelmed within, more to share in details later.

Mom&dad are going back to hometown after the two cases are dropped in Court.

They must feel more relieved than me. Warmest thanks to my parents for neverending support. Try my best not to have myself facing any further trouble in Court again, while remaining fully committed to work, until my duty is over at NBTC.

Faithfully,

ข่าวดีประจำวันนี้คือ ในที่สุดทางช่อง 3 ยอมถอนคดีที่ฟ้องข้าพเจ้าคนเดียวใน กสทช.เป็นการส่วนตัวตามข้อหา หมิ่นประมาท และ ผิดตาม พรบ.คอมพ์ ต่อหน้าศาลแล้ว โดยข้าพเจ้าเองไม่ติดใจจะฟ้องกลับทั้งทางแพ่งหรืออาญา คือจริงๆ คดีนี้ข้าพเจ้าไม่สมควรถูกฟ้องตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหมิ่นฯหรือ พรบ.คอมพิวเตอร์ฯที่ไปรีทวีต (RT) ข้อความคุณ @can_nw ในทวิตเตอร์

เมื่อช่อง 3 ตัดสินใจถอนฟ้องเองก็ดีแล้ว ไม่ต้องเหนื่อยสู้ในชั้นศาลให้เสียเวลากันทุกฝ่าย ถ้ามีอะไรเห็นต่างกันก็ควรใช้การถกเถียงกันในพื้นที่สาธารณะ พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ ก็ไม่ควรถูกนำมาใช้พร่ำเพรื่อในลักษณะเแบบนี้หรือแบบอื่นโดยเฉพาะใช้แทนกฏหมายหมิ่นประมาท ระยะยาวควรมีการปรับปรุงทั้งตัวบทและกระบวนการฟ้อง จะได้ไม่ถูก ab-use บ่อยๆ

‪#‎คหสต. คิดว่าการที่ทนายเขามารอเจรจาต่อหน้าศาลก่อนถอนฟ้องวันนี้ ก็เพื่อขอคำยืนยันว่าเราจะไม่ฟ้องเขากลับทั้งทางแพ่งหรือาญา คือเราไม่ได้มีประเด็นขัดแย้งอะไรกับช่อง 3 เป็นการส่วนตัวตั้งแต่แรก ทั้งหมดที่ทำไปก็เป็นหน้าที่ ถ้าปัญหาจบแล้วก็คือจบ ก่อนจะฟ้องก็ไม่เห็นกังวลว่าเขาจะฟ้องกลับ พอจะถอนฟ้องก็กังวลว่าเราจะฟ้องกลับจริงๆ อันนี้ก็เป็นบทเรียนว่าต่อไปจะฟ้องอะไรใครแบบนี้ ฝ่ายโจทก์ควรต้องรอบคอบ

เมื่อครั้งที่ดิฉันชนะคดีชินคอร์ปฯ ใช้เวลาสู้คดี 3 ปีเต็ม เหนื่อยไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้ฟ้องกลับใคร

เราทำหน้าที่ของเรา ส่วนใครจะมาฟ้องก็เป็นเรื่องของเขา สู้กันในชั้นศาลตามกระบวนการยุติธรรม ถ้าชนะคดีก็ถือว่าจบ เวลาที่เสียไปแลกเป็นบทเรียนของทุกฝ่าย เคสนี้กับช่อง3 ถือว่าจบกันไป ทั้งคดีที่ศาลปกครองและศาลอาญา

ปีนี้ถือว่ามีดวงโชคดีทางศาล

3 คดีใหญ่จบลงด้วยดี ทั้งศาลอุทธรณ์ยกฟ้องคดีปีนสภาค้าน สนช. และ คู่กรณีช่อง 3 ขอถอนฟ้องคดีอาญาเอง รวมทั้งที่กรณีศาลปกครองให้ช่อง3 ยินยอมออกคู่ขนาน 2 ระบบ จนแก้ปัญหาทีวีดิจิตอลได้

ยังอึนๆอยู่แต่ก็ดีใจมากลึกๆ ต้องขอบคุณทุกฝ่าย โดยเฉพาะเพื่อนร่วมงานที่มหัศจรรย์ และทีมนักกฎหมายโดยเฉพาะพี่ นคร ชมพูชาติ ซึ่งเป็นทนายความให้มาทุกคดี ตั้งแต่คดีชินคอร์ป – สนช. – ช่อง 3 และเป็นที่ปรึกษากฎหมายในการทำงานที่ กสทช. ปัจจุบันนี้ด้วย

ส่วนใหญ่ผลการต่อสู้ออกมาดีหมดแม้จะเหนื่อย ลุ้นกันตัวโก่งบ้าง แต่ก็ทยอยปิดคดีได้

พ่อกับแม่คงโล่งใจกว่าข้าพเจ้า เดินทางกลับบ้านทางใต้กันแล้ว ขอบคุณในกำลังใจ ความเข้าใจตลอดเวลา

เสรีภาพได้กลับคืนมา

ตั้งใจจะระวังไม่ให้เกิดคดีอีก แต่ไม่รู้จะเลี่ยงได้ไหม ก็ยังคงต้องทำงานเต็มสูบ ปล่อยพลังสุดๆเช่นเดิม จนกว่าจะหมดหน้าที่ใน กสทช. ยังไงก็มีทนายความถาวรแล้ว  เจออีกกี่คดีก็ต้องสู้ไปตามกระบวนการยุติธรรม

เชื่อในสิ่งที่ทำ ทำในสิ่งที่เชื่อ

(แต่ก็ต้องแม่นหลักกฎหมายเสมอนะ)