แต่การแสดงออกซึ่งความคิด ความเชื่อ อย่างสงบ ก็ยังคงเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน

28 มิ.ย. 58

Prep for Broadcast Panel’s meeting tmr on a pending issue over the shareholders of SLC (later changed to NEWS), which is the owner of digital tv’s news channel- Springnews, taken more than 10% of shares in NMG who is the holding corp for digital tv’s Nation news channel which is considered if violating NBTC’s ownership rules. Tmr is time for a decision to be finalised by the Panel. Also more agenda related to digital tv regulations to debate.
More to tell.
…..

Feeling discouraged after following those news concerning on the arrest of 14 young activists who have peacefully stood for justice & democracy.

Though we are indeed living in a military regime but there should be a proportionate mean to treat the citizens who just wanted to stand for their beliefs esp when they are still young & being peaceful.

Freedom of expression & peaceful assembly though it became unlawful in the country but still a basic human-rights as a natural rights.

My respect to all who do struggle for liberty & justice here, or elsewhere.

Hope justice would prevail.
May Goddess set them free.

……

เตรียมประชุมบอร์ด กสท. เช้าพรุ่งนี้ มีวาระสำคัญคือการลงมติใหม่กรณีที่ยืดเยื้อมาหลายเพลา คือการเข้าถือหุ้นของ SLC (NEWS) ใน NMG เกินร้อยละ 10 จนมีกรณีพิพาทว่าขัดกฎ กสทช. เพราะทั้งคู่เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทลูกที่เป็นผู้รับใบอนุญาตช่องข่าวคือ Springnews และ เนชั่นทีวี

วาระนี้เคยลงมติไปแแล้ว แต่ออกมาคลุมเครือ 2:2:1 จนทางเครือเนชั่นไปร้องที่ศาลปกครอง และเรื่องถึงบอร์ดใหญ่จนมีมติให้บอร์ด กสท. กลับมาลงมติใหม่ให้เป็นไปตามที่อนุกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของ กสทช. เสนอแนะไว้

ดิฉันก็คงยืนตามมติเดิมที่เคยโหวตไว้แล้วคือการถือหุ้นเกินร้อยละ 10 ดังกล่าวของช่องข่าวด้วยกันนั้นขัดกฎกติกาของ กสทช. ต้องให้ปรับแก้ไขให้ถูกต้อง

รอลุ้นมติใหม่พรุ่งนี้ว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนวาระสำคัญอื่นๆ อาทิ การออกใบอนุญาตทีวีดิจิตอลช่องใหม่ประเภทบริการสาธารณะ ช่อง 10 ให้ทีวีรัฐสภา

วาระข้ออุทธรณ์ของเคเบิ้ลแอนะล็อกที่ไม่สามารถทำตามกฎ Must carry ได้ และวาระอื่นๆเช่นเรื่องร้องเรียนด้านเนื้อหา อ่านจับตาวาระได้จากรายละเอียดข้างล่างค่ะ

…..

ช่วงวันหยุดติดตามข่าวการคุมขังนักกิจกรรมสังคมการเมืองคนหนุ่มสาวแล้วก็เศร้าใจตาม สังคมไทยวนไปเวียนมาอยู่ที่เดิม

ในฐานะคนที่ถูกดำเนินคดีโทษฐานชุมนุมทางการเมืองสมัยค้าน สนช. ปี 50 มาก่อน ก็พอเข้าใจหัวอกคนที่มีพลังอุดมคติ และตัดสินใจแสดงความคิด แสดงออกถึง จุดยืนทางการเมืองที่กระทบกรอบกฎหมาย (ปัจจุบัน)

ถูกหรือผิดในสายตาผู้คน คงแล้วแต่ใครมอง
ส่วนทางกฎหมาย ก็คงว่าไปตามกระบวนการ แต่ทุกคนล้วนมีสิทธิ์ที่จะดำรงความคิด ความเชื่อ และ อุดมการณ์ เมื่อถูกดำเนินคดีแล้วก็ขอให้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับความเป็นธรรมอย่างที่ควรจะเป็น

แม้รู้อยู่ว่าเรายังอยู่ในยุคที่ทหารปกครองบ้านเมืองด้วยอำนาจพิเศษ แต่ก็การใช้อำนาจก็ไม่ควรเกินกว่าเหตุในทุกกรณี ‪#‎คหสต. เช่นควรให้พลเมืองได้ต่อสู้คดีในศาลพลเรือน เหมือนคดีชุมนุมทางการเมืองอื่นๆ โดยเฉพาะถ้ากรณีที่พลเมืองเหล่านั้นต้องการแสดงออกซึ่งความคิดและจุดยืนโดยปราศจากใช้อาวุธและความรุนแรงใดๆ

ตนเองเคยถูกดำเนินคดีมีโทษจำคุกรอลงอาญามาก่อนจากฐานชุมนุมปีนสภาฯ แต่โชคดีมากที่ยังไม่เคยถูกจำคุกจริง เมื่อเห็นใครถูกจำคุกเพราะการแสดงออกทางการเมืองโดยสงบก็เศร้าใจไปด้วย

ในอดีตตนเองเคยร่วมชุมนุม ไฮด์ปาร์กก็หลายครั้งตั้งแต่สมัยรัฐบาล ปชป. ไทยรักไทย จนกระทั่งยุค คมช.ปี 50 ที่ถูกฟ้องอาญาคดีปีนสภา เลยตัดสินใจยุติ เปลี่ยนเส้นทางจากนักเคลื่อนไหวข้างนอก มาต่อสู้ในห้องประชุมข้างใน เพราะเหนื่อยแล้วกับบทบาทนั้น แต่ย้อนกลับไปก็ไม่เสียใจเลยที่เคยแสดงบทบาทที่เลือกแม้สุ่มเสี่ยง

เราต่างมีเส้นทางชีวิตให้เดิน และวัยหนุ่มสาว คือวัยที่เรามีพลังที่สุด กลัวน้อยที่สุด มีภาระให้ห่วงน้อยที่สุด เราจึงใช้ชีวิตได้มีอิสระมากกว่า

สมัยชุมนุมกับกลุ่ม NGOs คัดค้านนโยบายการพัฒนาของรัฐบาลสมัยก่อนโน้นก็ถูกข้อหารับเงินต่างชาติบ้างอะไรบ้าง การถูกตั้งคำถามจึงเป็นเรื่องธรรมดา

เมื่อเราตัดสินใจทำสิ่งที่ท้าทายอำนาจรัฐ อำนาจทุนหรือสังคม เราก็ต้องพร้อมยอมรับการตั้งคำถามหรือคำวิจารณ์ทุกรูปแบบ ดีแล้วที่สังคมได้ถกเถียงกัน

ในทางกลับกัน เมื่อฝ่ายรัฐ ทุน หรือ ใครก็ตามที่ใช้อำนาจ ก็ย่อมถูกสังคมตรวจสอบ ทวงถาม และ วิจารณ์การใช้อำนาจได้เช่นเดียวกัน

เป็นคนหนุ่มสาวมาก่อน เข้าใจและให้กำลังใจคนรุ่นใหม่เสมอ ผ่านกาลเวลาความคิดเขาก็อาจจะปรับเปลี่ยนไปเอง แต่ถ้าในวันนี้เขาคิด เขาเชื่ออย่างนั้น ควรให้เขาได้พูด ได้แสดงออก

แม้เราจะอยู่ภายใต้กฎหมายพิเศษ แต่การแสดงออกซึ่งความคิด ความเชื่อ อย่างสงบ ก็ยังคงเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน อันเป็นสิทธิ์ตามธรรมชาติอยู่ดี

เช่นเดียวกับเรื่องความรักของคนเพศเดียวกัน แม้กฎหมายจะห้ามว่าเป็นสิ่งผิด แต่ความรักของเขาก็เป็นสิทธิ์ตามธรรมชาติอยู่นั่นเอง ฟ้าก็มิอาจกั้นจิตวิญญาณ
เมื่อสิทธิ์ตามธรรมชาติ ขัดกับกฎหมาย ก็คือกฎหมายขัดสิ่งที่เป็นธรรมชาติ สังคมย่อมสั่นสะเทือนเป็นธรรมดา ส่วนอะไรจะชนะนั้นก็ต้องต่อสู้กันไป

สำหรับน้องๆทั้ง 14 คน
ที่พอรู้จักก็มีแต่ แมน ปกรณ์ เป็นการส่วนตัวเพียงคนเดียว เพราะน้องเคยร่วมชุมนุมกับฝั่ง พธม. และอยู่ในแวดวงรุ่นน้องวงการ NGOs มานาน น้องๆคนอื่นเพียงได้ตามอ่านเรื่องราวจากข่าวและเรื่องเล่าขานมา

ก็ขอให้แมน และน้องๆที่ถูกคุมขังทุกคนได้รับอิสรภาพโดยเร็ววัน

ขอให้ฝ่ายผู้มีอำนาจลดความกลัวลงสักนิดแล้วคืนอิสรภาพขั้นพื้นฐานที่สุดกลับมาให้พลเมืองบ้าง เพื่อสร้างบรรยากาศการปฏิรูปประเทศให้ไปข้างหน้าด้วยกันได้จริงๆ

อาจดูเป็นคำขอของคน ‪#‎โลกสวย ถ้าจะขอให้ฝ่ายอำนาจรัฐทบทวนการใช้อำนาจเกินกว่าเหตุกับพลเมืองที่แสดงออกโดยสงบ เพื่อให้การปฏิรูปก้าวไปข้างหน้าได้จริงๆ

แต่ใครเล่าอยากจะอยู่ในโลกที่ขี้เหร่และหม่นหมองมากไปกว่านี้
แม้ได้เพียงภาวนาก็คงต้องทำ…