Do it best. Let it be.

1 – 2 Feb, 2016 
From Broadcast Panel’s meeting on Monday which 2 critical issues are still pending for a decision next week. (To revoke licenses of DTT channels: ThaiTV & MVTV Family, after failing to pay the spectrum fees, and a case of Z Pay TV on the penalty & remedy for consumers.)

Then joining a retreat for team building in Kanjanaburi, with NBTC staffs from 2 bureaus: Licenses revenues’ regulation & Promoting fair competition & media self-regulation.

Great days with a solidarity & energy to work thru this tough year. Nice to be closer & casual with staffs while at work we all are rather grim. Especially, when we are a minority in term of a final decision.

Stay active & keep up our full spirit.
Thanks for being bold to defend the principles when it is a must.

Do it best. Let it be.
United, We stand!

สรุปงานวันจันทร์และอังคาร
1 – 2 กุมภาพันธ์ 2559

หลังประชุมบอร์ด กสท. เช้าวันจันทร์ ช่วงบ่ายก็เดินทางมากาญจนบุรีเพื่อร่วมกิจกรรมประชุมนอกสถานที่หรือ outing retreat เพื่อสร้าง team building ร่วมกับ ผอ. และเจ้าหน้าที่จากสำนักกำกับดูแลอัตราค่าธรรมเนียมในกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ (นส.) และสำนักส่งเสริมการแข่งขันและกำกับดูแลกันเอง (สส.) ในส่วนของ มติ กสท. เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมายังไม่ได้ข้อยุติในเรื่องสำคัญ 2 เรื่อง รอไปถูกในวันจันทร์หน้า นั่นก็คือเรื่องการเพิกถอนใบอนุญาตช่อง Thai Tv และช่อง MVTV Family ที่จะครบกำหนดในวันพรุ่งนี้ในการต้องจ่ายเงินค่าประมูลคลื่นและค่าธรรมเนียมต่างๆ ถ้าไม่สามารถจ่ายได้ มาตรการขั้นสูงสุดก็จะเป็นการเพิกถอนใบอนุญาตซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่และเป็นจุดสิ้นสุดของสิทธิในการประกอบกิจการคลื่นความถี่ที่ประมูลมาได้

ส่วนเรื่องบริการ Z Pay Tv ที่จะยุติในวันที่ 6 กุมภาพันธ์แปลว่า อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจะเสนอมาตรการต่างๆให้บอร์ด กสท. มีมาตรการล่วงหน้าแต่ก็ยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจน กสท. เสียงข้างมากให้สำนักงานเสนอแนวทางใหม่ครั้งในวันจันทร์หน้า ทั้งสองเรื่องสำคัญก็รอบทสรุปอีกทีในการประชุมครั้งหน้านะคะ

ถามว่าเหนื่อยใจไหมก็มากพอควร แต่ก็ดีที่หลังประชุมบอร์ดได้มาร่วมประชุมสัมมนานอกรอบกับพนักงาน กสทช. ในสำนักที่ทำงานใกล้ชิด ก็ช่วยเติมเต็มพลังใจของกันและกันมากขึ้น

……

ขอเล่าโดยย่อถึงกิจกรรม retreat เสริมสร้างความสัมพันธ์ในทีมงานของทั้งสองสำนักและลดช่องว่างเปิดใจเคลียร์ปมที่ค้างคาระหว่าง กรรมการ 2 คนและ และ ผอ. 2 สำนักกับพนักงานใน 2 ทีม

เริ่มจากมาถึงตอนเย็น กรรมการ 2 คน คือดิฉันและกสทช. ธวัชชัยก็ได้ฟังสรุปแผนงานในปีนี้ที่สำนักทั้งสองได้ประชุมล่วงหน้ามาก่อนในช่วงเช้าแล้วให้กรรมการ comment เพิ่มเติม ต่อด้วยช่วงค่ำซึ่งดิฉันได้รับอาสาเป็นผู้ดำเนินกิจกรรมเองก็เลยเลือกกิจกรรม การแสดงบทบาทสมมุติ เปลี่ยนบทบาทกัน หรือที่เราเรียกว่า role playing นั่นคือให้ผอ. สำนักแสดงเป็นบทบาทสมมุติเป็นกรรมการ กสท. และกรรมการ กสท. เปลี่ยนไปแสดงบทบาทสมมุติอยู่ในฐานะผอ.บ้าง
สวนคนอื่นก็แบ่งกลุ่มสวมบทบาทเช่นเป็นตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีจุดยืนแบบนึง เป็นตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการรายเล็กซึ่งมีปัญหาแบบนึง เป็นตัวแทนผู้บริโภคภาคประชาสังคมที่มาร้องเรียนปัญหาต่างๆและมีการแสดงบทบาทสมมุติเป็นสื่อมวลชนที่ซักถามการทำงานของคณะกรรมการและสำนักงาน

ผลของกิจกรรมนี้ออกมาดีอย่างไม่น่าเชื่อ ทุกคนแสดงบทบาทออกมาได้เนียนสมจริง ดูไปก็ขำกันไปแต่ลึกๆก็มีความจริงที่อาจจะเศร้าอยู่ในนั้น แต่สิ่งที่เราได้ร่วมกันก็คือ การนึกถึงใจเขาใจเรามากขึ้น เมื่อเราต้องไปอยู่ในบทบาทหรืออยู่ในจุดยืนของอีกฝั่งหนึ่ง ก็จะทำให้เข้าใจกันและกันมากขึ้น
อีกทั้งมีการวิเคราะห์สภาพปัญหาที่ออกมาแบบเป็นธรรมชาติผ่านการแสดงบทบาทสมมุตินั่นเอง ทำให้ผู้บริหารเข้าใจ เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติมากขึ้น และในทางกลับกันด้วย อาทิ ได้ฟังเรื่องเล่าที่ลำบากใจ เช่น ถึงเวลาเก็บค่าธรรมเนียมรายปี จะมีผู้ประกอบการรายเล็กเช่นเคเบิลทีวีท้องถิ่น โทรมาร้องห่มร้องไห้บอกว่าทำธุรกิจลำบากไม่มีเงินจะจ่ายค่าธรรมเนียม ไหนมีครอบครัวจะต้องดูแลทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายเก็บค่าธรรมเนียมซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักบัญชีต้องคอยรับฟังปัญหาของผู้ประกอบการนับร้อยร้อยนับพันราย

อันนี้ก็เป็นความเครียดในระดับปฏิบัติที่ระดับกรรมการอย่างเราก็เพิ่งได้ฟังอย่างลึกซึ้งผ่านการแสดงบทบาทสมมุตินั่นเอง ก็เห็นใจทุกฝ่าย เราก็คงต้องหาจุดที่สมดุลในการทำงานแล้วก็คงต้องยึดหลักการที่มันควรเป็นเพราะมันมีความไม่เป็นธรรมอยู่ อาทิสถานการณ์ ที่ผู้ประกอบการรายใหญ่มักจะเรียกค่าธรรมเนียมหรือไม่ต้องจ่ายแต่ราย เล็กก็ต้องแบกภาระไปเป็นความเจ็บปวดใจของพนักงานที่เจอในขณะที่ระดับบอร์ดก็ไม่เป็นเอกภาพ

เช่นเดียวกับสำนักที่ดูแลเรื่องการแข่งขันและจรรยาบรรณสื่อ ก็จะมีมุมมองที่หลากหลาย จุดยืนรายใหญ่อย่างหนึ่ง รายเล็ก อย่างหนึ่ง เมื่อรับเรื่องมาพร้อมพร้อมกันระดับปฏิบัติต้องตั้งหลัก ในการทำงานใกล้ชิดกับกรรมการแล้วต้องฝ่าฟันเสนอทางออกให้ผ่านถึงขั้นสุดท้ายซึ่งหลายครั้งก็ไปติดขัดในระดับบอร์ดที่ต้องตัดสินใจในกระบวนการทำงานที่ค่อนข้างจะล่าช้าและขาดการประสานงานภายในที่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น

แม้สุดท้ายบทสรุปดูยังเป็นหนทางที่ตีบตันอาจจะเป็นเพราะว่าปัญหามันซับซ้อนและทิศทางนโยบายของกรรมการโดยรวมอาจไม่ชัดเจนและข้อจำกัดเทคนิคบางประการในการทำงานร่วมกันแต่ทุกคนก็เข้าใจหลายอย่างมากขึ้นและคิดว่าได้พลังใจบางส่วนกลับไปทำงานกันต่อ

สำคัญที่สุดเกิดสิ่งที่เรียกว่าความเข้าใจซึ่งกันและกัน จากที่เคยกระทบกระทั่งโกรธกันมามันก็ผ่านคลายลงไปแล้วเกิดสิ่งที่เรียกว่ามิตรภาพความอบอุ่นผ่านบรรยากาศของการให้อภัยเข้าใจและให้กำลังใจกันทำงานภายใต้ข้อจำกัดและอุปสรรคต่างๆมากมาย
……

ขอขอบคุณทั้งกรรมการผู้บริหารและพนักงานเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เปิดใจจริงใจ และมีส่วนร่วมในกิจกรรมอย่างเต็มที่สมดังเจตนาที่ตั้งใจมาประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกันครั้งนี้ ส่วนในวันที่ 2 ก็เป็นกิจกรรม team building ที่เชิญวิทยากรมืออาชีพอบรมเพิ่มเติม ช่วงสายสายเราก็ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ทำกิจกรรม แบ่งกลุ่มกันไป แล้วเราก็ใช้เวลาช่วงสายและเที่ยงไปเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์ Death Railway Thailand – Burma จากสงครามโลกครั้งที่ 2

มีเรื่องราวอยากจะแลกเปลี่ยนพอสมควรแต่ขอเก็บไว้โพสหน้า ช่วงบ่ายกลับมาร่วมกิจกรรมเปิดใจ และสันทนาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ทั้งสองสำนักต่อเนื่อง ปิดท้ายด้วยการร้องเพลงตามธรรมเนียม คืนนี้ต่างคนก็ต่างพักผ่อน พรุ่งนี้ก็พร้อมจะกลับไปทำงานที่ กสทช. กันต่อ ก็หวังว่าช่วงเวลาวันสองวันแล้วจะเล็กน้อยจะเป็นช่วงพัก ให้ทุกคนผ่อนคลายจากบรรยากาศการทำงานที่ตึงเครียด

ขอให้บรรยากาศแห่งมิตรไมตรี เป็นพลังใจให้ทุกคนทำงานเพื่อประโยชน์สาธารณะโดยไม่ท้อถอย ผ่านพ้นอุปสรรคทั้งภายในและภายนอกไปได้ ดีใจที่ได้ทำงานกับคนรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจ ดีใน กสทช. ไม่ว่าหลักการที่เราต่อสู้จะสำเร็จหรือไม่สำคัญที่สุดคือ เราได้ทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่แล้วหรือยัง

ขอบคุณทุกคนที่ยืนหยัดทำงานร่วมกันมาด้วยความตึงเครียดตลอด4 ปีกว่า ยังเหลืออีกกว่า 2 ปี ขอให้ค้นพบพลังที่มากขึ้นอีกในการเข็นครกขึ้นภูเขา และ วิ่งชนกำแพง

ด้วยความเชื่อมั่นเสมอ สู้ๆค่ะ

ปล. ใน กสท. มี 16 สำนัก ส่วนตัวได้ทำงานใกล้ชิดมากหน่อยก็ประมาณ 3-4 สำนัก

ครั้งนี้ได้มาร่วมกับเจ้าหน้าที่จาก 2 สำนักยังเหลืออีก 2 สำนักที่จะตามมา คือ สำนักคุ้มครองผู้บริโภค และสำนัก Digital Tv ไว้มาอัพเดทต่อไปค่ะ…