จับตากสทช. ถกงบกองทุน กทปส.หนุนสื่อเยาวชน ทีวีชุมชน คนพิการ//กสท.ผ่านแผน GMMz ชดเชยเงินช่องหายให้สมาชิก สุภิญญาติงแผนไม่เป็นธรรม

จับตา กสทช. ถกงบกองทุน กทปส. หนุนสื่อเยาวชน ทีวีชุมชน คนพิการ
กสท.ผ่านแผน GMMz ชดเชยเงินช่องหายให้สมาชิก สุภิญญาติงแผนไม่เป็นธรรม แต่จี้เอกชนเร่งแจ้งสิทธิ์ผู้บริโภค เคลียร์เรื่องร้องเรียน

 

วันนี้(11 ต.ค. 59) นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ในวันพุธที่ 12 ต.ค. 59 มีการประชุมบอร์ด กสทช. ครั้งที่ 9/2559 มีวาระการประชุมน่าจับตาได้แก่ การพิจารณากลั่นกรองโครงการที่ขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนเงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ(กทปส.) ประเภทที่ 2 ประจำปี 2558 (ครั้งที่1) ซึ่งมีโครงการเป็นการพัฒนาต้นแบบสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอล ประเภทบริการชุมชน ในรูปแบบการจัดตั้งสถานีโดยชุมชนและจัดหาเงินอุดหนุนการผลิตรายการจากชุมชน ทั้งนี้มีการระบุตัวชี้วัดต้นแบบสถานีเพิ่มเติมจากโครงการ ด้วยการให้มีการออกอากาศแบบสดอย่างน้อย 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์และออกอากาศแบบบันทึกเทปและรีรันอย่างน้อย 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ได้แก่ โครงการพัฒนาต้นแบบสถานีโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี หน่วยงานมูลนิธิสื่อสร้างสุข 3,494,160 บาท โครงการวิจัยและพัฒนาสถานีโทรทัศน์ชุมชน “พะเยาทีวี” หน่วยงานสมาคมสื่อชุมชนจังหวัดพะเยา 3,389,050 บาท โครงการทีวีชุมชนอันดามันมั่นคง  หน่วยงานมูลนิธิรักษ์ไทย วงเงิน 3,927,000 บาท

รวมทั้งพิจารณาอนุมัติโครงการอื่นๆ อีกได้แก่ โครงการศูนย์การเรียนรู้ ICT จิตอาสาแบ่งปันความรู้สู่โรงเรียนห่างไกลในถิ่นทุรกันดารผ่านอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา วงเงิน 9,421,500 บาท โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาการจัดทำบริการคำบรรยายแทนเสียงในช่วงเวลาเดียวกันหรือใกล้เคียงกับเวลาออกอากาศ(Near Real-time Captioning) องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย วงเงิน 11,510,204 บาท โครงการสร้างสรรค์รายการโทรทัศน์ “ใต้หลังคา ฟ้ามีดาว” เพื่อการพัฒนาของเด็กปฐมวัย มหาวิทยาลัยรังสิต วงเงิน 5,246,023 บาท ซึ่งทั้งหมดเป็นโครงการที่ผ่านเกณฑ์ความเหมาะสมทางเทคนิคและการเจรจาต่อรองงบประมาณ 6 ราย วงเงิน 36,987,937 บาท (สามสิบหกล้านเก้าแสนแปดหมื่นเจ็ดพันเก้าร้อยสามสิบเจ็ดบาทถ้วน)

นอกจากนี้ ที่ประชุมเตรียมพิจารณาโครงการที่ขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนเงินจากกองทุนฯ ประเภทที่ 2 ประจำปี 2558 (ครั้งที่1) จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการติดตั้งระบบ ICT และการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยี Wi-Fi ในเขตพื้นที่สาธารณะของวัด สถาบันอาศรมศิลป์ วงเงิน 9,245,728.05 บาท  โครงการสร้างความเข้าใจของคนพิการและบุคคลทั่วไปเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านไปสู่กิจการโทรทัศน์ดิจิตอล มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งประเทศไทย วงเงิน 4,437,322.10 บาท โครงการเพิ่มศักยภาพการรับสื่อสัญญาณโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลสำหรับประชาชนในพื้นที่ยากต่อการเข้าถึง บริษัท ไอพีเอส.เซลส์แอนด์เซอร์วิส จำกัด วงเงิน 21,396,492.27 บาท และโครงการส่งเสริมการผลิตและออกอากาศรายการโทรทัศน์ระบบดิจิตอลหมวดหมู่เด็ก เยาวชน และครอบครัว วงเงินรวมไม่เกิน 3,000,000 บาท

“โครงการที่ผ่านบอร์ดกองทุน กทปส.มารอบนี้ มีความน่าสนใจ และ ตอบสนองงานตามยุทธศาสตร์ กสทช.มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา เช่นการส่งเสริมรายการเพื่อเด็กเยาวชน สื่อโทรทัศน์ชุมชน การเข้าถึงสื่อของคนพิการ การส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยีการสื่อสาร  ที่ยังขาดไปคือการส่งเสริมความเข้มแข็งของผู้บริโภคในการเฝ้าระวังตรวจสอบสื่อวิทยุ โทรทัศน์ โทรคมนาคม คงต้องรอดูว่าผลการพิจารณาโดย กสทช.จะผ่านให้ทุกโครงการหรือไม่ สำคัญยิ่งกว่านั้นคือเมื่อโครงการผ่านแล้ว สำนักงานคงต้องมีการติดตามตรวจสอบ ประเมินผลของการใช้งบประมาณอย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพต่อไป” สุภิญญา กล่าว

นอกจากนี้ นางสาวสุภิญญา กล่าวถึงมติบอร์ด กสท. การประชุมกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ที่ได้ประชุมวานนี้(10 ต.ค. 59)  ถึงพิจารณาแผนเยียวยาลูกค้าของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด ผู้ใช้บริการกล่องรับสัญญาณดาวเทียม GMM Z กรณี บริษัทิ จีเอ็มเอ็ม บีฯ ยุติบริการช่องรายการ Fox Thai และ Nat Geo Wild   ที่ยุติการออกอากาศไปตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. 59  นั้น  เมื่อวานนี้  กสท. มีมติลงโทษปรับทางปกครอง ต่อบริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด ที่ไม่ได้เสนอมาตรการเยียวยาที่เป็นธรรมและครอบคลุมการคุ้มครองผู้บริโภคมิให้ถูกเอาเปรียบเพิ่มเติมภายในระยะเวลา 7 วันตามมติ กสท. ครั้งที่ 26/2559 เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 59  ในอัตราวันละ 20,000  บาท ตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค. -  9 ก.ย. 59  และบอร์ดเสียงข้างมากเห็นชอบกับแผนเยียวยาที่บริษัทฯส่งมาอีกครั้งเมื่อวันที่  6 ต.ค. ที่ผ่านมา  โดยผู้ใช้บริการ หรือลูกค้าที่ไม่ประสงค์จะคืนกล่องรับสัญญาณสามารถรับสิทธิชดเชยเยียวยา จะได้รับค่าเสียโอกาสในการรับชมช่องรายการ Fox Thai และ Nat Geo wild เป็นเงิน 118.80 บาท  แต่หากผู้บริโภคต้องการคืนกล่องรับสัญญาณด้วย จะได้รับสิทธิ์ชดเชยเยียวยาค่าเสียโอกาสในการรับชม 2 ช่องดังกล่าว และค่ากล่องรับสัญญาณ GMMz สำหรับรุ่น Smart เป็นเงิน  100 บาท  ส่วนรุ่น HD หรือรุ่น HD lite มูลค่า  150 บาท  ทั้งนี้กล่องที่ซื้อต้องอยู่ในช่วงระหว่างเดือนสิงหาคม 2555 – สิงหาคม  2557 เท่านั้น  และผู้ใช้บริการต้องแสดงใบเสร็จรับเงินหรือสลิปบัตรเครดิต หรือหลักฐานการซื้อสินค้าที่เชื่อถือได้ว่าซื้อในช่วงเวลาดังกล่าว   สามารถยื่นขอใช้สิทธิ์ได้ด้วยตนเองหรือมอบอำนาจให้บุคคลอื่นก็ได้

 “ก่อนหน้านี้บริษัทฯ ส่งแผนเยียวยามาให้อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ พิจารณามาแล้ว 2 ครั้ง  แต่มีหลายประเด็นที่ดิฉันและอนุกรรมการฯ เห็นว่าแผนที่ส่งมายังไม่เป็นธรรมและไม่ครอบคลุมกลุ่มผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบ  ดังนั้นอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค จึงไม่เห็นชอบต่อแผนดังกล่าว  อย่างไรก็ตามบริษัทฯได้ส่งแผนเยียวยามาใหม่อีกครั้ง และนำเรื่องเข้าบอร์ดพิจารณาตามรายละเอียดข้างต้น  ซึ่งดิฉันยังคงไม่เห็นชอบกับแผนดังกล่าวเพราะมีเงื่อนไขในการขอรับสิทธิชดเชยเยียวยาที่ซับซ้อน  ทำให้ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยไม่สะดวกที่ใช้สิทธิ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เมื่อ กสท. เสียงข้างมากเห็นชอบแผนเยียวยาไปแล้ว ทาง GMMz ก็ควรเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภครับรู้สิทธิ์โดยด่วนที่สุด ภายใน 30 วันนับแต่ที่บริษัทประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภครับทราบ และ เร่งแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนคั่งค้างทั้งหมด  ” สุภิญญากล่าว…