Keep calm & take care ใจร่มๆแล้วเราคงมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ได้บ้าง

My brief reflection about Thai politics on Constitution Day & International Human Rights Day, after a meeting with activist friends.

วันนี้วันรัฐธรรนูญไทย และ วันสิทธิมนุษยชนสากล มีนัดกินข้าวกับเพื่อนร่วมงานสมัยยังเป็นเอ็นจีโอด้านสิทธิเสรีภาพ ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ เราได้แลกเปลี่ยนกันเรื่องการบ้านการเมือง สิ่งหนึ่งที่ได้ถกกันคือปัญหาหลักของความขัดแย้งทางการเมืองตอนนี้ลงลึกไปถึงจิตใต้สำนึกของความเป็นมนุษย์แล้ว คือด้านมืดด้านสว่างได้สะท้อนตัวตนออกมาเต็มที่ทุกฝ่าย แต่อีกด้านหนึ่งคือเราได้เห็นการไม่ยอมรับกันและกันมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการไม่ยอมรับตัวตน ข้อเท็จจริง หรือ ความคิดเห็น การแสดงออกที่ผิดไปจากความเชื่อของกลุ่มตน ซึ่งเป็นการปฏิเสธตอบโต้ (denial) กันและกัน ที่สั่งสมความเกลียดชังอย่างลึกซึ้งจนอาจนำไปสู่การต้องแบ่งแยกประเทศกันอยู่ หรือสงครามกลางเมืองได้จริงๆ ซึ่งไม่มีใครอยากให้เป็นเช่นนั้

จริงๆ รัฐธรรมนูญกับสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องเดียวกัน การชุมนุมเพื่อเปลี่ยนแปลงผู้ปกครองเป็นสิทธิทางการเมืองและสิทธิพลเมืองซึ่งเป็นส่วนหลักในสิทธิมนุษยชนสากล ส่วนการเลือกตั้งให้สิทธิราษฎรทุกคนมีสิทธิทางการเมืองในฐานะพลเมืองในการกำหนดอนาคตของตนเอง ก็เป็นหลักการสำคัญของสิทธิมนุษยชนสากลที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยรับรองเช่นกัน การเมืองที่ไม่ให้สิทธิพลเมืองทุกคนมีส่วนร่วมตัดสินใจย่อมกระทบสิทธิมนุษยชนได้ เราจะทำอย่างไรให้การเปลี่ยนผ่านทางการเมืองในสยามประเทศครั้งสำคัญนี้ ทุกฝ่ายจะสมาทานหลักการเรื่อง “สิทธิมนุษยชน” มาเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อน บนฐานของสิ่งที่เรียกว่า *เสรีภาพ *เสมอภาค *ภราดรภาพ ที่การปฏิวัติโดยประชาชนเมื่อครั้ง 14 ตุลาคม 16 ได้จุดประกายให้เราไว้ มันอุดมคติมาก แต่เราต้องไม่ทิ้งหลักการดังกล่าวนี้

ตอนนี้ก็ยังคิดไม่ออกว่าการเมืองไทยบนฐานของการสมาทานหลักการเรื่อง *เสรีภาพ*เสมอภาค*ภราดรภาพ ของภาคประชาชน จะเกิดขึ้นได้อย่างไร จะค่อยๆคิดต่อไป ฃ

กำลังเตรียมวาระการประชุมบอร์ดใหญ่ กสทช.พรุ่งนี้เช้า คงได้หารือเรื่องผลกระทบด้านการ สื่อสารและแนวทางแก้ปัญหาจากเหตุการณ์ทางการเมืองต่อด้วย หลังมีมติในบอร์ดเล็กมาแล้ว ยังไม่มีใครรู้ว่าทางออกการเมืองไทยจะเป็นอย่างไรรู้แต่ว่าไม่สดใสเท่าใดนัก อย่างไรก็ตาม หน้าที่ กสทช.คือคอยกำกับให้ระบบการสื่อสารทำงานได้โดยมี free flow ของ information อีกทั้งการจัดสรรคลื่นความถีีใหม่เพื่อเป็นช่องทางการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนและกำกับดูแลสื่ออย่างเป็นธรรม งานนี้อุดมคติอีกเช่นกัน แต่คือหน้าที่ที่ต้องทำ ไว้มาสรุปผลเพื่อทราบเช่นเดิมค่

Keep calm & take care ใจร่มๆแล้วเราคงมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ได้บ้าง