จริงๆแล้วก็คือการตีความกฎให้ชัดเจน ทุกคนเข้าสู่กติกาเดียวกัน ใครเป็นฟรีทีวี ใครเป็นทีวีดาวเทียม/เคเบิล จะได้ชัดเจน

Tweeted a summary from a meeting with TV operators on Licensing criteria & Must Carry Rule, Advert Rules & its penalties in different platforms for both consumer protection & fair competition. Complicated.  More to explain.
Also prep for NBTC meeting tmr on important agenda such as draft Auction Rule for 900MHz & draft Rule on a common channel’s line-up for DTT in all platforms. Both are controversial issues among the industries so more to tell on the result after Panel’s decision tmr. I guess its a tough call for the rest.
สรุปงานวันนี้ (15 ก.ย. 58)
เช้าประชุมชี้แจงกติการะยะเวลาการโฆษณากับผู้ประกอบการทีวีฯ บ่ายประชุมคณะทำงานแม่น้ำห้าสายเปลี่ยนผ่านดิจิตอลทีวี ประเด็นสำคัญที่ชี้เแจงเมื่อเช้านี้คือ กสท.มีมติให้กำกับดูแลการโฆษณาตามมาตรา 28 และมาตรา 31 พรบ.ประกอบกิจการฯ+ประกาศผู้บริโภค อย่างเคร่งครัด ผู้ได้รับอนุญาตออนแอร์บนทีวีดาวเทียมและเคเบิล ‘ทุกช่องรายการ’ มีโฆษณาได้ไม่เกินชั่วโมงละ 6 นาที ยกเว้นกลุ่มฟรีทีวีที่ได้สิทธิ์ตามกฎ Must Carry

บอร์ด กสท.มีมติให้ สนง.ชี้แจงผู้รับใบอนุญาตให้ทำการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องตามกติกาภายในเวลา 30 วัน นับจากวันที่ กสท.มีมติ วันนี้ สนง.จึงเชิญผู้รับใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเพื่อให้รับทราบเป็นการทั่วไป จากนั้นถ้าเกินระยะเวลาที่กำหนด สนง.จะตรวจสอบภาพรวมต่อไป จากนั้นถ้าพบว่ามีช่องรายการใดอาจเข้าข่ายการกระทำที่ขัดเงื่อนไขใบอนุญาต สนง.จะนำเสนอบอร์ด กสท.ให้มีมาตรการทางปกครองกับผู้รับใบอนุญาตต่อไป

ดังนั้นภายหลังจากการชี้แจงวันนี้ มี 2 กลุ่มที่ต้องกลับไปสำรวจตนเองว่าทำตามกฎกติกาต่างๆอย่างถูกต้องหรือไม่ คือ
1. ผู้ให้บริการโครงข่ายดาวเทียม/เคเบิล ต้องไปสำรวจว่าในกล่องตนเองมีช่องรายการใด ‘ไม่เข้าพวก’ หรือเข้าข่ายขัดเงื่อนไขใบอนุญาตอยู่หรือไม่

2. ช่องรายการฟรีทีวีภาคพื้นดินที่ออกผ่านดาวเทียมและเคเบิล(นอกกลุ่ม Must Carry) ควรกลับไปตรวจสอบตนเองว่าออนแอร์ขัดเงื่อนไขกติกาดังกล่าวหรือไม่

กติกาของ กสทช.ระบุว่า ผู้มีสิทธิ์ออนแอร์ผ่านดาวเทียมและเคเบิลต้องได้รับใบอนุญาตในการประกอบกิจการทีวีบอกรับสมาชิกที่โฆษณาได้ 6 นาทีต่อชม. ยกเว้นช่องฟรีทีวีดิจิตอลภาคพื้นดิน 24 ช่องที่ได้รับการยกเว้นโฆษณาได้ 10 – 12  นาทีบนดาวเทียม/เคเบิลที่ออกอากาศในกลุ่ม MustCarry ถ้าฟรีทีวีช่องใดในปัจจุบัน พบว่าตนเองไปอยู่นอกกติกา Must Carry ลองกลับไปสำรวจอีกครั้งว่าได้รับใบอนุญาตการเป็นทีวีดาวเทียม/เคเบิลแล้วหรือยัง

ถ้าไปตรวจสอบแล้วพบว่าตนเองมีใบอนุญาตอีกใบหนึ่งเป็นทีวีดาวเทียม/เคเบิล ก็ยังมีสิทธิ์ออนแอร์นอกกลุ่ม Must Carryได้ แต่ต้องปรับเรื่องเวลาโฆษณา ถ้าตรวจสอบแล้วพบว่าช่องตนเองได้รับเฉพาะใบอนุญาตเป็นทีวีภาคพื้นดินเท่านั้น แต่ยังไม่มีใบอนุญาตเป็นทีวีดาวเทียม/เคเบิล ก็ให้มายื่นขอใหม่ได้

กสท.ไม่ได้ห้ามช่องฟรีทีวีภาคพื้นไปอยู่นอกกลุ่ม Must Carry หรือใน 10 ช่องแรกบนดาวเทียม+เคเบิล แต่วันนี้มติชัดเจนแล้วว่าต้องทำตามกติกาเคร่งครัด

ถามว่าทำไมมติเพิ่งมาชัดเจนเมื่อ 24สิงหาคม2558 ก็เพราะถกกันมานาน มีหลายปัจจัยแทรก จนในที่สุด กสท.เพิ่งมีมติเป็นเอกฉันท์ ชัดเจนสักที อย่างไรก็ตามประเด็นนี้คู่ขนานมากับ การรื้อร่างประกาศเรียงช่องใหม่ตรงกัน ที่จะเข้าบอร์ดใหญ่ กสทช.พรุ่งนี้ ที่จะเกี่ยวข้องกันโดยตรง คือถ้าร่างประกาศเรียงช่องใหม่ ฟรีทีวีตรงกันทุกกล่อง ผ่านบอร์ดใหญ่พรุ่งนี้ไปลงราชกิจจานุเบกษา ประเด็นก่อนนี้ที่กล่าวมาก็จะไม่มีนัยยะสำคัญมาก

เพราะถ้าไม่มี 10 ช่องแรกแล้ว ก็คงไม่มีประเด็นที่ฟรีทีวีบางช่องจะกระโดดไปอยู่นอกMust Carryที่ทำให้มีปัญหาเรื่องการตีความ/บังคับใช้กฎหมายดังกล่าว แต่ถ้าประกาศเรียงช่องใหม่ฟรีทีวีตรงกันทุกกล่อง มีอุบัติเหตุยังไม่ผ่านบอร์ดใหญ่พรุ่งนี้ด้วยเหตุใดก็ตาม กสทช.ก็จะใช้มาตรการที่ชี้แจงไปวันนี้ นั่นคือเมื่อครบเวลา 30 วัน สนง.ก็จะสำรวจช่องรายการนอกกลุ่ม MustCarry โดยเฉพาะในกลุ่ม10ช่องแรกว่าแต่ละช่องได้รับใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่ ถ้าพบว่าช่องใดออกอากาศไม่เข้าพวกหรือไม่ได้รับใบอนุญาตที่ถูกต้องตรงประเภท สนง.ก็จะเสนอ กสท.ให้มีคำสั่งทางปกครองอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป

ปล. ช่องฟรีทีวีประเภทธุรกิจที่ได้รับสิทธิ์โฆษณา10-12นาที ตามกฎ Must Carryมบนดาวเทียม/เคเบิล คือช่องที่ออนแอร์ระหว่างช่อง 23 ถึงช่อง 46 สรุป

1.รอดูมติ กสทช.พรุ่งนี้เรื่องร่างประกาศเรียงช่อง (ถ้าไม่ผ่าน)

2.สนง.เริ่มกำกับดูแลตามมติที่ชี้แจงไปวันนี้ (หลังเปิดชี้แจงภายใน 30 วัน)

จากนั้นถ้าทุกอย่างชัดเจนแล้วว่าใครอยู่ platform ไหน แล้วกระทำความผิดฐานโฆษณาเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด จะเจอบทกำหนดโทษตามประเภท  ดังนี้
1. กลุ่มวิทยุทดลองประกอบกิจการ โทษปรับ 5 แสนบาท และวันละ 2 หมื่นบาท ตลอดเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติตามคำสั่ง #โฆษณาเกินเวลา
2. กลุ่มวิทยุกระจายเสียงรายเดิมของรัฐ โทษปรับ 7 แสน 5 หมื่นบาท และปรับวันละ 2 หมื่นบาท ตลอดระยะเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติตามคำสั่ง #โฆษณาเกินเวลา

3. กลุ่มเคเบิลทีวีท้องถิ่นและภูมิภาค โทษปรับ 7 แสน 5 หมื่นบาท และปรับวันละ 2 หมื่น ตลอดเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติตามคำสั่ง #โฆษณาเกินเวลา
4. กลุ่มทีวีดาวเทียมและเคเบิ้ลระดับชาติ โทษปรับ 1 ล้านบาท และปรับอีกวันละ 5 หมื่นบาท ตลอดเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติตามคำสั่ง #โฆษณาเกินเวลา
5.กลุ่มฟรีทีวีระดับชาติระบบดิจิตอล และแอนาล็อก โทษปรับ 1 ล้านบาท และปรับวันละ 5 หมื่นบาท ตลอดเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติตามคำสั่ง #โฆษณาเกินเวลา
วันนี้หลังเวทีชี้แจงมีคนแซวว่า กสท.เข้ม กระชับพื้นที่ผู้ประกอบการฯ แต่จริงๆแล้วก็คือการตีความกฎให้ชัดเจน ทุกคนเข้าสู่กติกาเดียวกัน ใครเป็นฟรีทีวี ใครเป็นทีวีดาวเทียม/เคเบิล จะได้ชัดเจน ไม่มีประเภทที่คลุมเครืออีกและมีบทลงโทษประกาศล่วงหน้ารู้โดยทั่วกัน ไม่เลือกปฏิบัติ วันนี้ในเวทีชี้แจง ผู้ประกอบการไม่ได้ถามหรือโต้แย้งมาก เงียบกว่าที่คาด ไม่แน่ใจว่ายอมรับ สับสน งง หรือขอกลับไปตั้งหลักก่อน (เผื่อฟ้อง;)

หลักๆคือ กสท. พยายามเดินตามกรอบกติกาในกฎหมาย และมีแนวทางการตีความและบังคับใช้ให้ชัดเจนขึ้น เพื่อความเข้าใจตรงกันทุกฝ่ายจากนี้ไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งการคุ้มครองผู้บริโภค การบังคับใช้กฎหมาย และ การแข่งขันในอุตสาหกรรมที่แบ่งประเภทกันชัดเจนมากขึ้น ……….
จบการประชุมชี้แจงช่วงเช้า ช่วงบ่ายมีเวทีประชุมคณะทำงานแก้ปัญหาต่างๆของดิจิตอลทีวี อาทิคูปอง กล่อง โครงข่าย และอื่นๆ แต่ประเด็นเยอะ ขอไว้มาสรุปผลการประชุมคณะทำงานฯ เพื่อทราบวันหลังค่ะ

เพราะพรุ่งนี้มีประชุมบอร์ดใหญ่ กสทช. ต้องเตรียมและพักก่อน วาระการประชุมบอร์ดใหญ่ กสทช.สำคัญๆพรุ่งนี้ อาทิ ร่างประกาศประมูลคลื่น 900 MHz และประกาศเยียวยา ร่างประกาศเรียงช่องใหม่ฟรีทีวีตรงกัน เป็นต้น ส่วนผลและรายละเอียดการประชุมจะเป็นอย่างไรนั้น โปรดติดตามต่อไปค่ะ
#900MHz #เรียงช่อง และ #อื่นๆ